วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทรายการละครวิทยุ

ชื่อรายการ กาลครั้งหนึ่ง

ละครวิทยุเรื่อง รักของแม่ รักแท้ของลูก

แก่นของเรื่อง รักนี้ไม่มีเงื่อนไข เป็นความรักของแม่และลูก

วัตถุประสงค์

1. เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงพระคุณของแม่

2. เพื่อเชิญชวนให้ลูกๆทุกคนแสดงความรักต่อแม่

ความยาวของรายการ

5 นาที

กลุ่มเป้าหมาย

ประชาชนทั่วไป

การเขียนบท

เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความรักของแม่ที่มีต่อลูก ซึ่งในตอนแรกลูกยังไม่เข้าใจถึงความรักของแม่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันในตอนต้นและในตอนกลางเรื่องได้ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับความรักของชายหญิงที่ไม่มีความจริงใจต่อกันและเป็นความรักเพียงชั่วคราวเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จุดจบของเรื่องจึงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความรักที่แม่มีให้ลูก

บทรายการละครวิทยุ เรื่อง

รักของแม่ รักแท้ของลูก

(เพลง คนพิเศษ ขึ้นคลอ)

ผู้ดำเนินรายการ 40 วินาที

สวัสดีค่ะคุณผู้ฟัง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ กาลครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการออกอากาศของสถานีวิทยุเพื่อการศึกษาและวิจัยค่ะ ดีเจเอิง ปรัชญาภรณ์ มกุลพานิช เป็นผู้ดำเนินรายการ ในวันนี้รายการของเรามีละครสั้นที่สอดแทรกแง่คิดดีๆมานำเสนอเช่นเคยคะ ซึ่งละครในครั้งนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข หลายๆคนก็คงมีความรักที่แตกต่างกันไปใช่ไหมคะ แต่ความรักที่เราจะนำเสนอในวันนี้ เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเปรียบได้ นั่นก็คือความรักของแม่ ผู้ที่ให้กำเนิดเรานั่นเองค่ะ และความรักที่ไม่มีเงื่อนไขตามแบบฉบับของแม่นั้นจะเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เชิญคุณผู้ฟังรับฟังละครสั้นเรื่อง รักของแม่ รักแท้ของลูกกันเลยคะ

ฉากที่ 1 บ้านพิม 40 วินาที

แม่ พิม ไปไหนมา ทำไมกลับบ้านดึก แล้วนี่ ดื่มเหล้ามาหรอ

พิม ใช่ (ตอบ ห้วนๆ)

แม่ พิมทำแบบนี้มันอันตรายนะลูก แล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยัง

พิม แม่จะยุ่งอะไรกับพิมนักหนาเนี่ยะ พิมจะทำอะไรก็เรื่องของพิม แม่ไม่ต้องมายุ่ง (น้ำเสียงโมโห)

แม่ พิม พิมไปล้างหน้าล้างตาแล้วมากินข้าวกินปลาก่อนดีกว่านะ

พิม แม่!! อย่าเซ้าซี้มากได้ป่ะ รำคาญ!! (น้ำเสียงตวาด)

(เสียงเท้าเดินขึ้นบันได ตึงตังๆ)

แม่ พิม พิม (ตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วง และก็นั่งมองกับข้าวที่เตรียมไว้ให้ลูกด้วยน้ำตา)

ฉากที่ 2 มหาวิทยาลัย 30 วินาที

ต้น พิม วันนี้ต้นขี้เกียจเรียนอะ ไปเที่ยวกันม่ะ

พิม พิมยังไงก็ได้ แล้วแต่ต้นเลย

ต้น งั้นเราไปเที่ยวกันไกลๆกันดีกว่า แต่ว่ามันต้องค้างคืนด้วยอะสิ พิมจะไปได้หรอ (น้ำเสียงเจ้าเล่ห์)

พิม ได้สิได้ เดี๋ยวพิมโทบอกแม่ว่า ไปทำรายงานบ้านเพื่อน แม่ไม่มีปัญหาหรอก

ต้น โอเค งั้นเราไปกันเลย

พิม จ้ะ :) ว่าแต่ เราจะไปเที่ยวกันหรอ

ต้น เดี๋ยวไปถึงพิมก็รู้เองแหละ บอกไปก็ไม่เซอร์ไพร์สสิ

ฉากที่ 3 ผับในโรงแรม & ห้องพักในโรงแรม 1 นาที

(เสียงเพลงดังๆ)

พิม ว้าววว !! ต้น พิมไม่เคยมาที่หรูๆแบบนี้เลยอะ

ต้น เป็นไง ชอบใช่ไหม ผมบอกแล้วว่า เซอร์ไพร์ส งั้นเราไปหาที่นั่งกันดีกว่า

(เสียงเพลงดัง ประกอบกับ เสียงบริกรถามว่ารับอะไรดีครับ)

ต้น พิม ดื่มน้ำไรดี น้ำส้มหรือว่าน้ำพันซ์

พิม น้ำส้มก็ได้คะ

ต้น ครับ งั้นน้ำส้มหนึ่ง เบียร์หนึ่งครับ

(เสียงกระซิบของต้นกับบริกร)

ต้น นี่ ใส่มาให้หมดซองเลยนะ เอ้า ค่าเหนื่อย

บริกร ได้ครับ ขอบคุณครับ

พิม ต้น พิมอยากไปแดนซ์จังเลยคะ ต้นไปด้วยกันนะ

ต้น ต้นว่า เดี๋ยวเราดื่มไรก่อนดีกว่า ค่อยไปก็ได้

(เสียงแทรกเข้ามา ) บริกร มาแล้วครับ น้ำส้ม และเบียร์

(พิม ดื่มน้ำส้มเกือบหมดแก้ว และต้นมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์และยิ้มพอใจ)

พิม ต้น ค่ะ พิมรู้สึกเวียนหัวจังเลย

ต้น สงสัยพิมจะไม่สบายแล้วล่ะ งั้นไปนอนพักผ่อนก่อนดีกว่า ไปๆ ต้นจะพาไปนอนนะ (น้ำเสียงเจ้าเล่ห์)

พิม อื ม มม (น้ำเสียงเนือยๆ เพราะแทบจะไม่มีสติแล้ว)

ที่ ห้องพักในโรงแรม (เสียงเปิดประตู เปิดไฟ เสียงเดิน และประคองพิมไปไว้บนเตียง)

ต้น คืนนี้ พิมมาเป็นของต้นนะ จุ๊บๆ

(พิมไม่มีสติเพราะมึนจากยานอนหลับ จึงสมยอมจนคืนนั้นพิมก็เสียความบริสุทธิ์ไป)

ฉากที่ 4 ห้องพักโรงแรม 30 วินาที

(ในตอนเช้า พิมตื่นขึ้นมาเห็นสภาพตัวเองแล้วก็ตกใจ จนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้)

พิม ต้นๆ นี่มันอะไรกันอะ ทำไมพิมถึงมาอยู่สภาพแบบนี้ (น้ำเสียงสั่นๆ)

ต้น พิม จะโวยวายอะไรเนี่ย เมื่อคืนพิมยังสนุกกับผมอยู่เลยนะ

พิม ฮือๆๆๆ TTT_TTT

ต้น จะร้องไห้ทำไม เดี่ยวข้างๆห้องก็มาด่าหรอก

พิม ฮือๆ ถ้าแม่รู้ แม่เอาพิมตายแน่ๆเลย ฮือๆ (น้ำเสียงสะอื้น)

ต้น พิม พิมฟังต้นนะ ถ้าเราสองคนไม่พูด แล้วใครจะไปรู้ล่ะ จริงม่ะ

พิม แต่พิมกลัวหนิ ฮือๆ

(ต้น ดึงพิมมากอด ด้วยสีหน้ารำคาญเต็มที่ แต่ก็พูดเสแสร้งไปว่า...)

ต้น เอาหนะ อย่าร้องไห้เลยพิม ยังไงผมก็จะอยู่เคียงข้างพิมนะ (แอบยิ้มเจ้าเล่ห์)

พิม ขอบคุณนะคะ ต้น พิมรักต้นที่สุดเลย

(หลังจากนั้น เมื่อต้นได้ตัวพิมแล้ว ต้นก็ไม่สนใจพิมอีกเลย อีกทั้งยังทิ้งพิมและไปหาผู้หญิงคนอื่นแทน และเมื่อเวลาผ่าน 3 เดือน พิมพบว่าตัวเองตั้งท้อง พิมตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จึงไปบอกต้นเรื่องนี้แต่ก็โดนปฎิเสธ)

ฉากที่ 5 บ้านต้น 40 วินาที

ต้น พิม กลับไปเถอะและก็อย่ามาที่นี้อีก แล้วก็ทำอย่างที่ต้นบอก เอาเด็กออกซะ

พิม ต้น แต่นี่ ลูกของเรานะ

ต้น พิม พิมคิดว่าต้นจะมาเสียอนาคตเพราไอเด็กนี่หรอ ไม่มีทาง!

พิม ทำไมต้นพูดแบบนี้ล่ะ ไหนต้นบอกว่าต้นรักพิมไง นี่เรากำลังจะมีครอบครัวด้วยกันนะ

ต้น พิม พิมอย่าให้ต้นต้องพูดซ้ำสองได้ป่ะ ตอนนี้ต้นไม่ได้รักพิมแล้ว และต้นก็ไม่ได้อยากมีครอบครัวตอนนี้ เข้าใจม่ะ กลับไปได้แล้ว ไป!

(เสียงปิดประตูบ้าน ปัง!)

พิม ต้น ต้น (ตะโกนเรียก) ฮือๆๆๆๆ

ฉากที่ 6 บ้านพิม 30 วินาที

(พิมเอาแต่ขังตัวเองในห้องแล้วก็ร้องไห้ทุกวัน แม่ก็คอยมองดูห่างๆอย่างเป็นห่วง และในที่สุดพิมก็ตัดสินใจบอกแม่เรื่องตั้งท้อง)

พิม แม่ พิมขอโทษ พิมผิดไปแล้ว พิมไม่ได้ระวัง พิมคิดว่าต้นเขารักพิมมากที่สุด แต่พิมคิดผิด TT_TT

แม่ พิม พิมฟังแม่นะ แม่ไม่เคยโกรธพิมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม่เป็นห่วงและรู้อยู่เสมอว่าลูกทำลงไปเพราะลูกไม่ได้ตั้งใจ และสำหรับสิ่งผิดพลาดครั้งนี้ แม่ก็ขอให้มันเป็นบทเรียนแก่ลูก และแม่อยากจะบอกพิมอีกเรื่องหนึ่งว่า แม่รักพิมเสมอ และหวังดีกับพิมตลอดมา

พิม แม่ พิมขอโทษที่ทำไม่ดีกับแม่ไว้หลายเรื่อง ต่อจากนี้ไปพิมจะเป็นคนใหม่เพื่อแม่จ้ะ พิมรักแม่มากที่สุดเลย

(เพลง อุ่นรักจากตักแม่ คลอๆ)

ผู้ดำเนินรายการ 30 วินาที

คุณผู้ฟังค่ะ ละครสั้นเรื่อง รักของแม่ รักแท้ของลูก ก็ได้จบลงไปแล้วนะคะ เอิงและรายการ กาลครั้งหนึ่ง ก็หวังว่าคุณผู้ฟังจะได้แง่คิดและแนวคิดใหม่ๆที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นะคะ สำหรับวันนี้ก็หมดเวลาของรายการ กาลครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก่อนจากกันไป เอิงมีคำขวัญเกี่ยวกับแม่มาฝากค่ะ

ใครเล่าใคร...ภูมิใจ...ในวันนี้
รีบทำดี...เพื่อแม่..แก่เฒ่าหนา
คุณใดใด...ไม่เท่า...คุณมารดา
ทั้งเมตตา...ปราณี...แม่นี้เอย

รักแม่ให้มากๆนะคะ สวัสดีค่ะ


เขียนโดย
นางสาวปรัชญาภรณ์ มกุลพานิช 52218122

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทความวิทยุกระจายเสียง

รักษ์โลก


วัตถุประสงค์ของการเขียนบทความเรื่อง

1. เพื่อกระตุ้นให้ตระหนักถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน

2. เพื่อรณรงค์ใก้ลดภาวะโลกร้อน

เรื่อง รักษ์โลก

ในโลกปัจจุบัน หากเอ่ยถึงการอนุรักษ์ธรรมชาติและพลังงานดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ล้าสมัยพอสมควรเพราะในยุคของโลกาภิวัฒน์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆก็คือพระเอกที่ได้รับความสนใจจากมนุษย์เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ความตระหนักและความใส่ใจของมนุษย์ต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและพลังงานจึงลดน้อยลงไปทำให้ภาวะโลกร้อนเริ่มวิกฤติยิ่งขึ้นส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกใบนี้

หากกล่าวถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน เราคงไม่สามารถบรรยายได้หมดภายในวันเดียวอย่างแน่นอน เพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อนนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากธารน้ำแข็งที่กำลังละลาย และอุณหภูมิทั่วโลกที่กำลังสูงขึ้นจากการขยายตัวทางความร้อนของน้ำในมหาสมุทร และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดสภาพอากาศรุนแรง เช่น คลื่นความร้อน ความแห้งแล้ง และ น้ำท่วม อีกทั้ง สัตว์สายพันธุ์ต่างๆ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้น และอีกมากมายที่เป็นผลกระทบน้อยใหญ่ ถ้าเราทุกคนไม่ยื่นมือมาช่วยรักษ์โลกของเรา อีกไม่นาน เราคงไม่ได้เหยียบบนพื้นโลกใบนี้เป็นแน่ มีคำกล่าวของ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนไว้ว่า สภาพแวดล้อมและภูมิภาคทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกนี้มีความร้ายแรงเพิ่มขึ้น จนพายุที่ทำลายล้างสามารถหยุดการโต้เถียงกันได้โดยฉับพลัน การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศเป็นของจริง และไม่ใช่แค่ของจริงเท่านั้น มันอยู่ที่นี่แล้ว และมันมีผลในการเพิ่มความหวาดกลัวต่อปรากฏการณ์ใหม่ของโลก นี่คือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ จากคำพูดดังกล่าว เราอาจจะพูดได้ว่า ' โลกร้อนขึ้นเพราะมนุษย์ร้อนกว่า ' คำว่า ร้อน ในที่นี้ หมายถึง อารมณ์ร้อน อากาศร้อน ทำสิ่งต่างๆด้วยความรีบร้อน จนไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา แสดงความเพิกเฉย ละเลย และไม่ใส่ใจต่อการทำลายธรรมชาติและใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน และเพื่อเป็นการบรรเทาและลดความรุนแรงของภาวะโลกร้อนลง มนุษย์ทุกคนควรร่วมมือร่วมใจกันตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ลำดับแรก เราจะต้องมีความใส่ใจและความตระหนักก่อน จากนั้นการอนุรักษ์ธรรมชาติและพลังงานก็จะทำได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น ปลูกต้นไม้ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ลดการใช้สารเคมีที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน เช่น คาร์บอนไดออกไซต์ ก๊าซมีเทน เป็นต้น เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอลให้มากขึ้น ใช้น้ำและไฟฟ้าอย่างประหยัด ปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียงและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเมื่อไม่ได้ใช้งาน วางแผนการเดินทาง ใช้จักรยานหรือรถประจำทางมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้ถุงพลาสติก โฟมที่ย่อยสลายยาก ใช้ของรีไซเคิลให้มากขึ้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการรักษ์โลกเท่านั้น ยังมีอีกมากมาย ที่เราทุกคนสามารถทำได้ อย่ารอช้าจนเกิดคำว่าสายเกินไป ร่วมกัน รักษ์ธรรมชาติ รักษ์พลังงาน และ รักษ์โลกของเรา



ขอบคุณข้อมูลจาก

http://nora.exteen.com/20091015/blog-action-day-2009

ขอบคุณรูปภาพจาก

http://www.eastchester.k12.ny.us/schools/hs/teachers/library/projects/images/cartoon_000.jpg

http://greenroom.apricotion.com/index.php/?cat=4&paged=2

http://www.dazzlejunction.com/graphics-holiday/earth-day/?page=1

เขียนโดย

นางสาวปรัชญาภรณ์ มกุลพานิช 52218122

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บทสารคดีทางวิทยุกระจายเสียง

รายการสารคดี

เรื่อง

เล่าเรื่องเมืองไทย

ระยะเวลาออกอากาศทั้งหมด 10 นาที

วัตถุประสงค์ของเรื่อง

1. เพื่อบอกเล่าถึงความเป็นไทย

2. เพื่อชักชวนให้มาเที่ยวเมืองไทย


กลุ่มผู้ฟังเป้าหมายหลัก

ประชาชนทั่วไป


เค้าโครงของเรื่อง

เพลงจิงเกิ้ลประจำรายการ เปิดรายการ

15 วินาที

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวเปิดรายการ และกล่าวถึงหัวข้อ

1นาที

เสียงสัมภาษณ์

1.30 นาที

ผู้ดำเนินรายการ นำเสนอเนื้อหาให้แก่ผู้ฟัง

3 นาที

ผู้ดำเนินรายการเชิญชวนให้คนมาเที่ยวเมืองไทย

1นาที

เปิดเพลง รักเมืองไทย

3 นาที

เพลงจิงเกิ้ลประจำรายการ ปิดรายการ

15 วินาที


บทสารคดีสมบูรณ์เรื่อง เล่าเรื่องเมืองไทย

F/I เพลงจิงเกิ้ลประจำรายการ 15 วินาที F/O

ผู้ดำเนินรายการ

สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับคุณผู้ฟังเข้าสู่รายการ เล่าเรื่องเมืองไทย ดำเนินรายการโดย ดิฉัน ดีเจเอิง นางสาวปรัชญาภรณ์ มกุลพานิช ค่ะ ก่อนอื่นเอิงขอให้คุณผู้ฟังคิดคำตอบไว้ในใจนะคะว่า เมืองไทย ในความคิดของคุณผู้ฟังเป็นอย่างไร ซึ่งแต่ละคนก็คงมีคำตอบที่แตกต่างกันไปใช่ไหมคะ และสำหรับวันนี้เอิงจะมานำเสนอ ข้อดีของเมืองไทยในแง่มุมต่างๆ แต่ก่อนอื่นเราไปฟังเสียงสัมภาษณ์ความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับเมืองไทยกันก่อนดีกว่าว่าคนอื่นๆเขาคิดกันอย่างไร เชิญติดตามคะ

เสียงสัมภาษณ์

-ผมคิดว่าเมืองไทย คือเมืองสวรรค์ครับ

-สำหรับฉัน ฉันคิดว่า เมืองไทยคือเมืองที่อิสระ จะทำอะไรก็ได้ แค่ไม่ทำให้ใครเดือนร้อนก็พอคะ

-เมืองไทยก็คือเมืองไทยครับ มันมีความหมายในตัวอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราเป็นคนไทย เราควรคิดว่าจะทำอะไรให้เมืองไทยดีกว่าครับ

-ฉันคิดว่า เป็น Land of smile หรือฝรั่งเขาเรียกว่า สยามเมืองยิ้มคะ ไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้ม

-สำหรับตัวผม ผมมองว่า เมืองไทยคือเมืองญาติมิตรครับ ไปทางไหนก็ ป้า ก็ ลุง ก็ พี่ ขนาดกระเป่ารถเมล์ผมไม่รู้จักยังเรียก ว่า พี่ เลยครับ

-เมืองไทย คือ เมืองแห่งความอบอุ่น มีน้ำใจคะ

-เมืองไทย มีที่เที่ยวสวยงามเยอะมากๆ และ ของกินก็อร่อยด้วยคะ หนูชอบกินต้มยำกุ้งที่สุดเลยคะ

ผู้ดำเนินรายการ

และที่จบไปก็คือเสียงสัมภาษณ์ความคิดเห็นต่างๆเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ เห็นไหมคะว่า เมืองไทยมีข้อดีมากมายที่มากกว่า ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอินโดจีน หรือว่า เมืองไทยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 50 ของโลก เท่านั้นนะคะ วันนี้เอิงมีข้อดี 20 ข้อเกี่ยวกับเมืองไทยมากฝากคะ

1."น้ำใจคนไทย" เลื่องลือไปไกลทั่วโลก หากมีทุกข์ที่ใด คนไทยจะร่วมใจลุยไปทั่ว เช่น เหตุการณ์สึนามิที่มีอาสาสมัครเดินทางไปโดยไม่ต้องถามใครก่อน แต่ไปด้วยหัวใจและน้ำใจ

2.มีคำว่า "เกรงใจ" และรู้สึก "เกรงใจ" ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แสนจะซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของ หลาย ๆ ความรู้สึกดี ๆ เข้าด้วยกัน แบบที่ชาติอื่นไม่เข้าใจ และไม่ลึกซึ้งเท่า

3.มีการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร เช่น ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ออกค่ายอาสาพัฒนาต่าง ๆ ทันตกรรมเคลื่อนที่ ,ห้องสมุดเคลื่อนที่ ฯลฯ

4.เมืองไทยก็มี "บ้านเรือนไทย" ที่ไม่เหมือนใครทั้งสี่ภาค

5.ไม่มีวัฒนธรรมการกดดันให้ลูกออกไปเผชิญโลกกว้าง หากลูกยังไม่พร้อม

6.มีภาษาที่สวยงามเป็นของตัวเอง

7.อาหารไทยดังไปทั่วโลกเพราะความหลากหลาย อร่อย และดีต่อสุขภาพ

8.ฤดูกาลเพียง 2-3 ฤดู ทำให้เพาะปลูกได้ทั้งปี เพราะที่ตั้งในพื้นที่เขตร้อนชื้น

9.ยิ้มละไมไทยแลนด์ เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากของไทยเรา การที่จะได้ยินคำว่า"สยามเมืองยิ้ม" นั้นช่างไพเราะเสียนี่กระไร

10.คนไทยมีโครงการในพระราชดำรินับพันๆ โครงการ ที่พระองค์ท่านได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย

11.เมืองไทยมี 5 ภูมิภาคที่มีความแตกต่างและมีรากเหง้าที่ผสมกลมกลืนให้เห็นความงามของสังคมไทย

12.คนไทย เป็นคนดีมีคุณธรรม มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพต่างๆ มีผลงานด้านการพัฒนาท้องถิ่นของตน และได้รับการยอมรับจากบุคคลทั่วไปอย่างกว้างขวาง ทั้งยังเป็นผู้ที่ใช้หลักธรรมคำสอนทางศาสนาของตนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในการดำรงวิถีชีวิตโดยตลอด

13.มีความจริงใจ ที่เหมือนจะเป็นความโง่ แต่สามารถผลักดันไปสู่ความสงบสุขเสมอ

14.เมืองไทยมีเทพเทวดาหลายพระองค์ที่คุ้มครองปกปักษ์รักษา

15.ปลอดภัยจากพายุหากเทียบกับประเทศเพื่อบ้านเพราะพายุจะอ่อนแรงโดยทางตะวันตกมีพม่าบังให้ ส่วนทางตะวันออกก็มีเวียดนามและลาวช่วยบังให้ ส่วนทางภาคใต้ต้องตื่นและตระหนักในภัยที่จะเกิด

16.เรามี "รำไทย" ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละภาค จนกระทั่งมีวิทยาลัยนาฏศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้ดูแลให้คงอยู่ตลอดไป

17.เรามีวิวัฒนาการทางดนตรีมายาวนาน ทั้งเครื่องดนตรีไทย และลักษณะเฉพาะของดนตรีไทย

18.มี มวยไทย .. กีฬาที่ผสมผสานแห่งศาสตร์และศิลป์ ที่มีชื่อเสียง โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์

19.เมืองไทย มีรถตุ๊ก ๆ ให้นั่ง

20.คนไทยมีพิธีไหว้ครูในทุกวงการทั้งการศึกษา กีฬา และนาฏศิลป์หรือการแสดง

ความจริงแล้ว เมืองไทยมีข้อดีอีกมากมายเลยนะคะ เอาเป็นว่าถ้าคุณผู้ฟังอยากจะแสดงความคิดเห็น ก็โทรศัพท์เข้ามาในรายการได้ที่เบอร์ 02-444-5555 คะ

ผู้ดำเนินรายการ

สำหรับช่วงสุดท้ายของรายการ เอิงอยากจะเชิญชวนให้คนไทยทุกคนช่วยกันนำเสนอสิ่งดีของเมืองไทยออกไปให้ชาวต่างชาติได้เห็นกันเยอะๆนะคะ และที่สำคัญเราคนไทยเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่าค่ะ เงินทองไม่รั่วไหล เศรษฐกิจก็ดีขึ้นด้วยค่ะ และสำหรับวันนี้ก็หมดเวลาของรายการ เล่าเรื่องเมืองไทยแล้ว ก่อนจากกันไปเอิงขอส่งท้ายด้วยบทเพลง รักเมืองไทย ซึ่งเพลงนี้มีความหมายดีมากๆเลยนะคะ สวัสดีค่ะ

F/I เปิดเพลง รักเมืองไทย 3 นาที F/O

F/I เพลงจิงเกิ้ลประจำรายการ ปิดรายการ 15 วินาที F/O

ขอบคุณข้อมูลจาก

http://gotoknow.org/blog/mrschuai

ขอบคุณรูปภาพจาก

http://pic.mthai.com/view_picpost.php?cate_id=33&post_id=411464

http://www.tourpai.net/gallary/teiwthai_01%20copy.jpg

เขียนโดย

นางสาวปรัชญาภรณ์ มกุลพานิช 52218122